GIT Information Center

โรเดียมเป็นโลหะที่หายากกว่าทองคำราว 100 เท่า เนื่องจากเหมืองในแอฟริกาใต้มีอุปทานโรเดียมถึง 80% ของโลก และการดำเนินการขุดที่กระจุกตัวนี้มักจะนำไปสู่ความผันผวนของราคาอย่างมากนั่นคืออุปทานที่ขาดแคลนจากแอฟริกาใต้ ซึ่งในปี 2023 คาดการณ์ว่าอุปทานโรเดียมทั่วโลกอยู่ที่ 0.72 ล้านออนซ์ ขณะที่อุปสงค์โรเดียมทั่วโลกสูงถึง 1.06 ล้านออนซ์ โดยประเทศที่มีความต้องการใช้โรเดียมมากที่สุดคือ จีน โรเดียมมีคุณสมบัติและประโยชน์อย่างไรพิจารณาได้จากภาพ Infographic นี้

แพลเลเดียม โลหะมีค่าสีขาวเงินอยู่ในกลุ่มเดียวกับแพลทินัม จัดเป็นโลหะทางเลือกที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับโดยมีการนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของทองคำขาวซึ่งเป็นโลหะผสมของทองคำหรือแพลทินัมและแพลเลเดียม ซึ่งมีความทนทานและใช้งานได้จริง ผู้ซื้อเครื่องประดับแพลเลเดียมรายใหญ่คือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และจีน คุณสมบัติและประโยชน์การใช้งานของแพลเลเดียมมีอะไรบ้างดูรายละเอียดได้จากภาพ Infographic นี้

ไทเทเนียมเป็นโลหะมีค่าที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคมากขึ้น เพราะไทเทเนียมมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง โดยมีความแข็งอยู่ที่ระดับ 6 จาก 10 ตามมาตรวัดของโมห์ส จึงเป็นโลหะที่ใช้ผลิตเครื่องประดับที่มีความทนทานและทนต่อรอยขีดข่วนเป็นอันดับต้นๆ นอกจากความทนทานแล้ว โลหะชนิดนี้ยังช่วยให้นักออกแบบเครื่องประดับถ่ายทอดงานศิลป์ของตนเองได้อย่างเต็มที่และนำเสนอสไตล์ที่แปลกใหม่ ด้วยสีสันหลากหลาย เช่น เงิน บรอนซ์ ม่วง น้ำเงิน ฟ้า ทอง ชมพู กุหลาบ แดงม่วง เขียวอมน้ำเงิน เขียวมะนาว และเขียว นักออกแบบจึงสามารถผสมผสานไทเทเนียมสีต่างๆ กับอัญมณีสีต่างๆ เพื่อสร้างผลงานที่โดดเด่น ซึ่งคุณสมบัติและประโยชน์การใช้งานของไทเทเนียมมีอะไรบ้างดูรายละเอียดได้จากภาพ Infographic นี้

แพลทินัมเป็นโลหะมีค่าสีขาวที่มีค่าความบริสุทธิ์สูง หายาก และมีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งมีค่าความหนาแน่นสูงและสีสันไม่จางลงจึงช่วยปกป้องประกายเพชรและอัญมณีที่ฝังบนเครื่องประดับ สะท้อนถึงคุณค่าและความหมายถึงความรักและความเป็นนิรันดร์ โดยปัจจุบันราคาแพลทินัมถูกกว่าทองคำราวครึ่งหนึ่งจึงทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคุณสมบัติและประโยชน์การใช้งานของแพลทินัมมีอะไรบ้างดูรายละเอียดได้จากภาพ Infographic นี้

โลหะเงินเป็นหนึ่งในโลหะมีค่าซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีนักลงทุนให้ความสนใจ โดยนักลงทุนนิยมใช้ในการปกป้องการด้อยค่าของค่าเงินจากสภาวะเงินเฟ้อ และเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างโรคระบาดหรือสงคราม โลหะเงินมีราคาที่ถูกกว่าทองมาก และถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงทำให้มีความต้องการมากขึ้น ดูรายละเอียดได้ในภาพอินโฟกราฟิกนี้

แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกมีทิศทางเพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบไซด์เวย์ จากสถานการณ์ที่เริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงของสหรัฐฯ ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม Bank of America คาดว่า Fed จะเริ่มลดการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ โดย Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2023 อาจจะสูงขึ้นถึง 1,950 USD/Oz. ซึ่งอุปทานและอุปสงค์ทองคำ รวมถึงอุปสงค์เครื่องประดับทองทั่วโลกเป็นอย่างไรดูรายละเอียดได้จากภาพ Infographic นี้

โลหะเงินเป็นหนึ่งในโลหะมีค่าที่ถูกนำมาใช้ในหลายภาคอุตสาหกรรม รวมถึงนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น แล้วโลหะเงินมีคุณสมบัติอย่างไรอ่านรายละเอียดได้จากภาพนี้

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษกิจ และมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้การลทุนสินทรัพย์เช่น หุ้น หรือคริปโต มีความเสี่ยงสูงมาก จึงทำให้นักลงทุนหันกลับมาลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีความผันผวนต่ำกว่าสินทรัพย์อื่นๆ และเมื่อซื้อแล้วมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนน้อย แต่การลงทุนทุกรูปแบบย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยล่าสุดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐพุ่งขึ้นไปที่ 3.0-3.25% อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤติในยูเครนและเศรษฐกิจโลกถดถอย ทองคำนอกจากจะใช้สะสมความมั่งคั่ง ใช้ในการลงทุนและเป็นทุนสำรองทางการเงินแล้ว ยังได้รับความนิยมสูงสุดในแวดวงเครื่องประดับด้วยคุณสมบัติอย่างไรนั้นอ่านรายละเอียดได้จากภาพนี้

Goldman Sachs คาดราคาทองคำจะสูงถึง 2,300-2,500 USD/Oz. ในปี 2022 จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งอุปทานและอุปสงค์ทองคำ รวมถึงอุปสงค์เครื่องประดับทองทั่วโลกเป็นอย่างไรดูรายละเอียดได้จากภาพ Infographic นี้